ด้านแรงกดดันจากต้นทุนการผลิตสินค้า มีแนวโน้มลดลงตามรายจ่ายด้านพลังงานของผู้ประกอบการที่มีทิศทางปรับตัวลง ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ค.68 ลดลง -3.69% (YoY) โดยติดลบมากขึ้นจากเดือนก่อน (-3.16%) ส่วนหนึ่งเป็นผลจากต้นทุนพลังงานที่แผ่วลงตามราคาน้ำมันในตลาดโลก จากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ดัชนีราคาผู้ผลิต ซึ่งมีแนวโน้มอ่อนแรงลงดังกล่าว จะช่วยลดแรงกดดันเงินเฟ้อด้านอุปทาน
นอกจากนี้ ดัชนีราคาสินค้านำเข้าเดือน เม.ย.68 หดตัว -0.97% (YoY) ติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการแข็งค่าของเงินบาท ตามการปรับลดสัดส่วนการถือครองดอลลาร์สหรัฐฯ ของนักลงทุน สวนทางกับสกุลเงินตลาดเกิดใหม่ รวมถึงภูมิภาคเอเชีย และเงินบาท ซึ่งมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น ปัจจัยดังกล่าว เอื้อให้ต้นทุนการนำเข้าถูกลง ทั้งยังมีส่วนช่วยลดทอนรายจ่ายในการผลิตสินค้าและบริการ อันจะช่วยให้เงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำ
ขณะเดียวกัน ต้องจับตาความไม่แน่นอนเกี่ยวกับมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น ที่จะส่งผลต่อการชะลอตัวของอุปสงค์ทั้งในตลาดโลก และไทย และกดดันโมเมนตัมเงินเฟ้อระยะข้างหน้าให้อ่อนแรงลง
ทั้งนี้ มาตรการขึ้นภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ ตกอยู่ภายใต้การไต่สวนในกระบวนการยุติธรรม (ยกเว้น sectoral tariff) ขณะที่การไหลทะลักของสินค้าจีน มีแนวโน้มเพิ่มสูงจากสงครามการค้าที่รุนแรงขึ้น ปัจจัยเหล่านี้ ล้วนเพิ่มความเสี่ยงด้านต่ำต่ออัตราเงินเฟ้อของไทย